แบบฟอร์ม

แนะนำตัว

ส่งงานกูเกิลเอกสารครั้งที่1 วันที่ 26/07/2555

Collypinkแนะนำตัวที่ดีที่สุด

 Colly pink

ต้องการผิวขาวใส แบบจิงจังใน 7 วัน ท้าให้ลอง 7 วัน คุณจะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง

เป๊ะ!!! ใสเหมือนฉีดSexy เหมือน ศัลยกรรมใส เด้ง เร่งด่วน

ราคากล่องละ 2200 บาทฟรีค่าส่ง ems ฟรี และของแถม

เนื่องจากตอนนี้สินค้าColly Collagenไม่รับการตอบรับจากเพื่อนๆเป็นอย่างดี ด้วยสินค้าCollagen 6,000mg จากญี่ปุ่น+Vitamin Cจากยุโรป ผสมผสานกันอย่างลงตัว ทำให้แสดงผลลัพธ์หลังจากบริโภคได้อย่างชัดเจนและรสสตอเบอรี่ที่หอมอร่อยทานง่าย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของColly Collagen

จึงทำให้มีผู้ไม่หวังดี มีการทำสินค้าลอกเลียนแบบที่ไม่ได้มาตรฐานมาจำหน่ายในราคาที่ถูกกว่าที่บริษัทกำหนด มิจฉาชีพกลุ่มนี้จะจำหน่ายสินค้าในราคาที่ต่ำกว่า 2,100บาทซึ่งบุคคลที่นำ
Colly Collagenจำหน่ายในราคาที่ต่ำกว่า 2,100บาท ทางบริษัทถือว่า มิได้เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างถูกต้องจากบริษัทแน่นอน และบริษัทจะไม่รับประกันในสินค้าดังกล่าว ไม่ว่าเรื่องผลลัพธ์หลังบริโภค การจัดส่งที่ปลอดภัย รวมถึงบริการหลังการขายใดๆ เช่น *การรับประกันความพึงพอใจใน30วันเราคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ จึงแจ้งมาเพื่อทราบขอบคุณที่ให้ความไว้วางใจในสินค้าและบริการของเรา

ประโยชน์ของ คอลลาเจน

        คอลลาเจน เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ประสานกันเป็นเส้นใยอยู่ใต้ชั้นผิวหนังแท้ ทำหน้าที่ เสริมความเรียบตึงให้แก่ผิวหนัง ทำให้ผิวหนังดูเรียบ เนียนในวัยเด็ก คอลลาเจน ยังไม่เสื่อมสลายและมีจำนวนมาก จึงทำให้เห็นว่าเด็ก ๆ หรือวัยรุ่นที่กำลังแตกเนื้อหนุ่มสาวมีผิวหนังที่เต่งตึง แต่เมื่อมีวัยมากขึ้น เส้นใย คอลลาเจน เหล่านี้จะเสื่อมสลายและมีปริมาณลดลง ทำให้ชั้นผิวหนังยุบตัวลงอันเป็นต้นเหตุของความเหี่ยวย่นและริ้วรอยยิ่งสูงวัยขึ้นเท่าใด ริ้วรอยแห่งวัยก็เห็นชัดขึ้นเท่านั้น ริ้วรอยแรกที่มาเยือนที่เป็นที่รู้จักกันดีก็คือ รอยตีนกาเนื่องจากผิวหนังรอบดวงตามีความบอบบางมากอีกทั้งกล้ามเนื้อรอบดวงตาก็เป็นกล้ามเนื้อวงกลม ไม่มีอะไรยึด ผิวรอบดวงตาก็เลยจะเหี่ยวมากกว่าที่อื่น อย่างไรก็ตาม เราสามารถเสริมสร้างคอลลาเจน ให้แก่ร่างกายได้เพื่อลดรอยเหี่ยวย่น ด้วยการรับประทาน คอลลาเจน หรือ วิธีการฉีด คอลลาเจน เข้าใต้ชั้นผิวหนังแท้ แต่วิธีการฉีดนั้นค่อนข้างจะยุ่งยาก เพราะต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นวิธีการรับประทานจึงเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด นอกจากนี้คอลลาเจนยังเป็นตัวช่วยให้ผิวพรรณเกิดความชุ่มชื้น เสริมความเรียบตึงให้กับผิวหนัง ทำให้ผิวดูเรียบเนียนกระชับ โดยทำงานคู่กับโปรตีนอีกชนิดหนึ่งที่ชื่อ “ อิลาสติน ” ( Elastin ) ในขณะที่ คอลลาเจน มีหน้าที่เสมือนโครงร่างผิว อีลาสติน ก็ทำหน้าที่ให้ความยืดหยุ่นแก่ผิว ควบคู่กันไปด้วย โดยพบว่าคนที่มีอายุ 25 ขึ้นไปจะมีปริมาณ คอลลาเจน ลดลงทุกปี ปีละ 1.5% อย่างไรก็ตาม เราสามารถเสริมสร้าง คอลลาเจน ให้ร่างกายได้ ด้วยการฉีด คอลลาเจน เข้าใต้ชั้นผิวหนังแท้ และอีกวิธีที่ง่ายและสะดวกคือ การรับประทาน คอลลาเจน เพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของชั้นผิวหนังและเพื่อเสริมให้กระดูกแข็งแรง ควรรับประทาน คลอลาเจน และ แคลเซียม เสริมจะช่วยป้องกัน ภาวะกระดูกพรุนได้

แนะนำค่ะ

โลชั่นทาผิวขาวบาชิ ขนาด 500 ml สารสกัดจากสมุนไพรล้วนๆ ไม่กัดผิว กลิ่นเหมือนต้นหญ้าตอนฝนตก เพราะลูกค้าบางซื้อไปคิดว่าโลชั่นเสีย กลิ่นเหมือนครีมทาหน้ากลางคืนแต่กลิ่นจะแรงกว่าค่ะ ทาแล้วแห้งไว พอแห้งก็ไม่มีกลิ่นค่ะ เห็นผลใน 1 ขวดค่ะ ว่าผิวเนียนขึ้น ขาวขึ้น รอยดำจางลง นำเข้าจากโรงงานที่จีนค่ะ

                     สนใจสินค้า ตัวไหนแบบไหน ติดต่อได้ 0846331045 

งาน Google Documents

บันทึกความดีประจำวันพฤหัสบดีที่ 7 มิ.ย.2555

1.พับผ้าห่ม
2.เปิดคอมให้เพื่่อน
3.ละหมาด
4.ให้อาหารแมว
 5.กวาดบ้าน

สรรพคุณของมะหาด

หากตอนนี้ครีมบำรุงผิวที่ดังที่สุดในเมืองไทยคงไม่พ้นครีมมะหาดอย่างแน่นอน เพราะว่าเป็นกระแสที่มาแรงตั้งแต่ต้นปี 2555 นี้ โดยเฉพาะหลังจากหมดประเพณีสงกรานต์ในบ้านเรา ด้วยอากาศที่ร้อนเป็นพิเศษในปีนี้ ทำให้สาวๆหรือกระทั่งหนุ่มๆผู้เอาใจใส่ในสุขภาพผิวพรรณของตนเอง ได้หันมาใช้ครีมบำรุงกันมากขึ้น ซึ่งมะหาดนั้นเป็นสมุนไพรไทยแท้จากธรรมชาติที่มีสรรพคุณมากมายดังนี้
สารของแก่นมะหาดนั้นช่วยให้ผิวพรรณผ่องใส ขาวขึ้น เพราะในตัวของมันมีสารยับยั้งเม็ดเซลล์ผิวที่เราไม่ต้องการได้ ซึ่งมากเอกสารอ้างอิงจากทางแพทย์ไทยชัดเจนว่ามีคุณสมบัตินั้นจริง

1. เป็นสมุนไพรไทย ทำให้มีคสามปลอดภัยสูงกว่าสารเคมีที่อยู่ในโลชั่นหรือครีมบำรุงผิวหน้าจากต่างประเทศ
2. ราคาถูก หลักร้อยบาทเท่านั้น แถมสรรพคุณก็ดีเกินราคา ซึ่งยังมีให้เลือกแบบสูตรธรรมดาคือโลชั่นมะหาด หรือจะแบบเข้มข้น 10 เท่าคือ หัวเชื้อมะหาดนั่นเอง
3. ทาเท่าไหร่ก็ได้ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แถมซึมซับเข้าสู่ชั้นผิวหนังได้ไว ไม่เหนียวเนอะหนะให้น่ารำคาญใจ

ซึ่งอ้างอิงสรรพคุณจากคณะแพทย์ไทย นั้นมาจากคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยค่ะ

สารสกัดจากแก่นมะหาดมีผลทำให้ผิวขาวได้มากขึ้นจริง

พบสารสกัดจากแก่นมะหาดมีฤทธิ์ยับยั้ง “เอนไซม์ไทโรซิเนส” ทำให้ผิวขาว

สารที่มีคุณสมบัติลดสีผิว  และช่วยทำให้ผิวขาว มีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับกลไกการออกฤทธิ์ ทั้งนี้ สารที่ทำให้เกิดผิวขาว ที่นิยมใช้มากที่สุด คือ สารขจัดสีผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สารที่ออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไทโรสิเนส ซึ่งทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยา ตั้งต้นของกระบวนการสังเคราะห์เม็ดสีเมลานิน สารเหล่านี้ต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ ทำให้ผลิตภัณฑ์มีราคาแพง

รศ.ดร.กิตติศักดิ์ ลิขิตวิทยาวุฒิ อาจารย์ประจำภาควิชาเภสัชเวท คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ ได้ศึกษาวิจัยสารที่มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส โดยพบว่า สารธรรมชาติในกลุ่มสติลบีนหลายชนิดมีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส สารดังกล่าวมีทั้งที่ได้จากธรรมชาติและจากการสังเคราะห์ และพบว่า สารออกซิเรสเวอราทรอล ที่สกัดจากแก่นของมะหาด ซึ่งเป็นไม้ยืนต้นที่สามารถพบได้โดยทั่วไปในประเทศไทย สามารถยับยั้งการเกิดของเอนไซม์ไทโรซิเนสได้มากถึง ๑๐ เท่า จากการทดลองในสัตว์และมนุษย์ในระยะสั้นพบว่า สามารถทำให้ผิวขาวได้มากขึ้นและเร็วกว่าสารสกัดจากชะเอมที่ใช้ในเครื่องสำอางโดยทั่วไปและไม่เกิด ผลกระทบต่อผิวหนัง ซึ่งในตำรายาไทยแก่นของมะหาดจะใช้ชื่อทางยาว่า โป่งหาด มีสรรพคุณในการถ่ายพยาธิ ขณะนี้การผลิตสารออกซิเรสเวอราทรอลในเชิงพาณิชย์ยังไม่สามารถทำได้เนื่องจากอาจมีกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพราะต้องตัดต้นมะหาดเพื่อนำแก่นของต้นมาสกัดสารดังกล่าว

รศ.ดร.กิตติศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์บำรุงผิวใช้สารที่ออกฤทธิ์ทำให้ผิวขาวมีหลายชนิด เช่น สารสกัดจากชะเอม สารสกัดจากเชื้อรา ซึ่งที่ผ่านมายังอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย และมีกลไกในการออกฤทธิ์ต่างกันข้อควรระวังในการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวคือ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาและมีฉลากที่ถูกต้อง รวมถึงไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารปรอทซึ่งอาจเกิดอันตราย

ปัจจุบันการศึกษาวิจัยสารสกัดจากแก่นมะหาดอยู่ในขั้นตอนการทดลองพัฒนา ตลอดจนศึกษาถึงประสิทธิภาพและความคงตัวเมื่ออยู่ในสูตรตำรับต่างๆ เปอร์เซ็นต์ความเข้มข้นสารสกัดจากแก่นมะหาดที่เหมาะสมสำหรับใช้ในผลิตภัณฑ์ รวมถึงวิธีการสกัดสารจากแก่นมะหาดให้มีความบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น

อ้างอิงจาก : ข่าวประชาสัมพันธ์ ส่วนส่งเสริมและพัฒนาวิจัย สำนักบริหารวิชาการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย